รวบสาวใหญ่ ลักทรัพย์เพื่อนสนิทเสียหาย 2 ล้านบาท หนี 13 ปีไม่รอด

วันที่ 31 มี.ค. 2566 เวลา 19:10 น.

เพื่อนสนิท คิดทรยศ หลังมาขอพักอาศัยสถานที่บ้านเพื่อน เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว ก่อนลักทรัพย์เพื่อนสนิท 2 ล้านบาท และหนีคดีนานกว่า 13 ปี สุดท้ายถูกจับกุม ตรวจสอบประวัติย้อนหลังพบมีหมายจับติดตัวอีก 6 หมาย แต่หลบหนีเรื่อยมา จนหมายจับหมดอายุความไปหมดแล้ว กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.สุขสิทธิ์ ประเสริฐ สว.กก.5 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการที่ 3 ร่วมกันจับกุม นางพิศสาคร อายุ 64 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.ราชบุรี ข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” โดยจับกุมได้ที่ริมถนนหน้าบ้านพักคนงานก่อสร้างแห่งหนึ่ง ม.6 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี สืบเนื่องจากพฤติการณ์ เมื่อปี 2553 เดือนกุมภาพันธ์ ถึง เดือนมิถุนายน 2553 นางจรัล ผู้เสียหายได้ให้ นางพิศสาคร ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเพื่อนสนิทมาพักอาศัยอยู่ด้วยที่บ้านพัก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เนื่องจาก นางพิศสาคร ต้องการหาทำเลเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว ซึ่งนางจรัล ผู้เสียหายเห็นว่าบ้านพักหลังดังกล่าว ของตนเองว่างไม่ได้พักอาศัย เพราะตนเองมีบ้านพัก 2 หลัง อยากช่วยเพื่อนสนิทให้มีรายได้ จึงให้นางพิศสาคร ใช้บ้านพักของตนเองเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว ปรากฏว่าเวลาผ่านไป 5 เดือน ระหว่างนั้นนางจรัล ผู้เสียหายเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัดไม่ได้กลับมาบ้านพักที่ให้นางพิศสาคร เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว เมื่อกลับมาถึงพบว่า ที่ดินจำนวน 2 งาน , บ้านพักจำนวน 1 หลัง และวัวพันธุ์จำนวน 10 ตัว ของตนเองที่ให้นางพิศสาคร ดูแลแทนระหว่างมาเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวที่บ้านพักของตนเอง ถูกนางพิศสาคร นำไปขายต่อให้บุคคลอื่นจนหมด มูลค่าทรัพย์สินที่เสียหายประมาณ 2 ล้านบาท จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับนางพิศสาครฯ กับพวกรวม 6 คน ที่รับซื้อทรัพย์สินของตนเองจากนางพิศสาคร ต่อมาศาลอนุมัติหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดีนี้ได้ 5 คน เหลือเพียงนางพิศสาคร เพียงคนเดียวที่หลบหนีไป 13 ปี ยังไม่ถูกจับกุม กระทั่งวันนี้ 30 มี.ค.2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สืบสวนทราบว่า นางพิศสาครฯ ผู้ต้องหาหลบหนีมาพักอยู่บ้านพักคนงานก่อสร้างแห่งหนึ่ง ม.6 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงไปตรวจสอบพบตัว ขณะเดินเข้าบ้านพัก จึงจับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี เพื่อดำเนินคดีต่อไป       สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การภาคเสธ โดยรับว่าตนเองไปขอใช้พื้นที่บ้านพักของนางจรัล เพื่อนสนิทที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวจริง แต่ไม่ได้นำที่ดิน บ้านพัก และวัวพันธุ์ของนางจรัล ไปขายแต่อย่างใด แต่มีเพื่อนของตนเองเป็นคนจัดการเรื่องการขายทรัพย์สินของนางจรัล ซึ่งถูกออกหมายจับในคดีนี้ด้วย ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ตรวจสอบประวัติคดีอาญาของนางพิศสาคร พบว่าเมื่อปี 2551 ถูกออกหมายจับคดีหลอกแรงงานไปทำงานต่างประเทศ จำนวน 6 หมายจับ แต่หลบหนีการจับกุมเรื่อยมา จนหมายจับหมดอายุความไปหมดแล้ว ซึ่งขณะหลบหนีจึงไปขอพักอาศัยบ้านพักนางจรัล ผู้เสียหายแล้วก่อเหตุในคดีนี้