วอนชาวบ้านอย่าหลงเชื่อ พระรักษาผู้ป่วยพิเรนทร์ จ.พัทลุง

วันที่ 28 มี.ค. 2566 เวลา 16:14 น.

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - พระรักษาผู้ป่วยด้วยการให้ไปนอนบนแคร่ที่ด้านล่างมีไฟที่ร้อนระอุ ส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดแผลพุพ่อง ล่าสุด สาธารณสุขจังหวัด ระบุ เป็นการรักษาเถื่อน วอนชาวบ้านอย่าหลงเชื่อ นายสุนทร คงทองสังข์ รักษาการสาธารณสุขจังหวัดพัทลุง เข้าตรวจสอบกรณี นางสาววิไลวรรณ อายุ 53 ปี ที่ป่วยเป็นอัมพาต เกิดไปหลงเชื่อว่ามีพระรักษาหาย ชื่อว่า พระภูมิพัด โดยใช้พื้นที่โรงเรียนเก่าเปิดสำนักสงฆ์อยู่ที่หมู่บ้านยางยายขลุย ตำบลท่าแค่ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง โดย สามีของนางสาววิไลวรรณ เล่าว่า เมื่อไปถึง พระได้ใช้ค้อนตอกตามลำตัว ก่อนที่จะให้ภรรยาไปนอนบนแคร่สูง 60 เซนติเมตร โดยด้านล่างจะมีการปูสังกะสี แล้วเอาถ่านไฟก่อให้ร้อน โดยนอนนานอยู่กว่า 30 นาที ซึ่งทาง พระ บอกว่า เป็นการคลายเส้น ซึ่งเส้นที่ตายไปแล้วจะฟื้นตัวขึ้นมา แต่พอกลับบ้าน ผลปรากฏว่าแผ่นหลัง ก้น ขา ของภรรยา มีแผลพุพอง บางจุดลึกจนเริ่มเน่า ก่อนรีบไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม แต่อาการยังไม่ดีขึ้น หลังภรรยาเข้ารักษาตัว ตนเองได้ติดต่อไปยัง พระภูมิพัด แต่ถูกปฏิเสธไม่รับผิดชอบ บอกเพียงให้มาเอาน้ำมันไปทาแล้วจะหาย แต่ตนเองไม่เชื่อแล้ว จึงได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรม หลังเกิดเหตุ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังสำนักงานสงฆ์ดังกล่าว ก่อนพบว่า พระรูปดังกล่าวยังเปิดทำการรักษาตามปกติ โดยมีการปิดป้าย ระบุ ห้ามถ่ายภาพ ซึ่งจากที่เห็นพบว่าพระรูปดังกล่าวได้ทำการนวดตัวผู้หญิง โดยกดไปตามร่างกาย พร้อมทั้งนวดคลำ อีกทั้งจากการสอบถามชาวบ้าน บอกว่า พระคนดังกล่าวได้มาพักที่โรงเรียนร้าง และเปิดเป็นสำนักสงฆ์รักษาโรคทั่วไป มาได้ประมาณ 5 เดือนแล้ว ที่ผ่านมาบางคนก็หาย บางรายก็อาการหนักขึ้น ส่วนค่ารักษาทราบว่าตามศรัทธา ล่าสุด นายสุนทร รักษาการสาธารณสุขจังหวัด เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบ พบว่า พระองค์ดังกล่าว ไม่ได้ขอขึ้นทะเบียน เพื่อการรักษาผู้ป่วยแต่อย่างใด ซึ่งการรักษาดังกล่าวผิด พรบ.สาธารณสุข โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อที่จะเอาผิดตาม จึงฝากเตือนไปยังประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อหากมีอาการเจ็บป่วยให้เข้าทำการรักษาตามสถานพยาบาลของรัฐดีกว่า ส่วนกรณีที่พระภิกษุรักษาแบบนี้ มันก็ไม่เหมาะสมอยู่แล้ว อีกทั้งยังผิด พรบ.สงฆ์ โดยทางสำนักพระพุทธศาสนาเป็นผู้ดูแลและเข้าตรวจสอบต่อไป  สำหรับพระองค์ดังกล่าว ทีมข่าวทราบว่าก่อนหน้านี้ได้บวชอยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในจังหวัดพัทลุง ใช้พฤติกรรมรักษาผู้หญิง ที่ผ่านมาชาวบ้านได้แจ้งเตือนให้หยุด แต่ไม่ยอมหยุด จนกระทั่งชาวบ้านและกรรมการสำนักสงฆ์ ได้ไล่ออกจากวัด ก่อนมาพบว่าเปิดโรงเรียนร้างเป็นสำนักสงฆ์รักษาผู้ป่วยอีกครั้ง