หมอยงยุทธ ชี้ เหตุกราดยิงเกิดจากความเครียด เรียกร้องรัฐยกเลิกปืนสวัสดิการ จี้ กสทช.ควบคุมดรามาเหตุการณ์ ห่วงสังคมชินชา

วันที่ 23 มี.ค. 2566 เวลา 11:45 น.

หมอยงยุทธ ชี้ เหตุกราดยิงเกิดจากความเครียด เรียกร้องรัฐยกเลิกปืนสวัสดิการ จี้ กสทช.ควบคุมดรามาเหตุการณ์ ห่วงสังคมชินชาความรุนแรง ขาดความยับยั้งชั่งใจ วันนี้ (23 มี.ค.66) นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวถึงเหตุการณ์ชายกราดยิงที่จังหวัดเพชรบุรี ว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากกรณีการใช้อาวุธปืนทำร้าย ไม่ว่าจะเป็นกรณีสารวัตรคลั่งจนถึงเหตุการณ์ล่าสุด จะพบว่าเกิดจากความเครียดและมีปัญหาทางจิตใจ และผู้ที่มีอาวุธปืน ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่อยู่ในองค์กรทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นทหาร, ตำรวจ, อสส. และเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ดังนั้น คนที่ดูแลในเรื่องนี้มีตั้งแต่ชุมชน และองค์กร โดยองค์กรจะต้องทำหน้าที่ ดูแลบุคลากรไม่ใช่พอเกิดปัญหาก็ส่งต่อให้ระบบสาธารณสุขเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะเราเป็นระบบปลายทาง แต่ก่อนที่คนเหล่านี้จะมีปัญหาเขาเคยเป็นบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ให้กับหน่วยงานได้อย่างเยี่ยม นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า การถือครอบครองอาวุธปืน ต้องมีระบบติดตามปัญหาสภาพจิตใจทั้งระบบ ไม่ใช่แค่จำกัดไว้ที่ส่วนกลาง ทำหน้าที่ติดตาม เช่น กองทัพบกมีระบบติดตามอยู่ที่โรงพยาบาลพระมงกุฏฯ หรือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีโรงพยาบาลตำรวจคอยกำกับติดตามสภาพจิตใจ เพราะเจ้าหน้าที่ทุกพื้นที่ของประเทศสามารถขอครอบครองอาวุธปืนได้ และการถือครอบครองอาวุธจึงต้องเข้าใจว่าอาจก่อเหตุได้ตั้งแต่ตัวเองและผู้อื่น เช่น ทำร้ายตนเอง ,ทำร้ายคนในครอบครัว, คนในชุมชน หรือแม้แต่คนไม่รู้จัก ฉะนั้นอย่านำอำนาจทางปกครองหรือวินัยมาจำกัดในเรื่องการดูแลครอบครองอาวุธปืนอย่างเดียว แต่ต้องใช้มาตรการการดูแลเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ พร้อมเรียกร้องยกเลิกซื้ออาวุธปืน สวัสดิการ เพราะคำว่าสวัสดิการนั้นไม่เหมาะ ใช้กับอาวุธ การใช้อาวุธเป็นการใช้ในขณะปฎิบัติหน้าที่ หากเสร็จสิ้นภารกิจหรือไม่ได้เกี่ยวข้องแล้ว ก็ไม่ควรมีการครอบครองอาวุธปืน เช่น กรณีเหตุกราดยิงที่เพชรบุรีนี้ จะพบว่าเป็นลูกจ้างชั่วคราวเท่านั้น แม้ที่มาของอาวุธปืนจะไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน นพ.ยงยุทธ ยังปฏิเสธวิจารณ์การปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะไม่เกี่ยวข้อง แต่อยากชี้ให้เห็นถึงการนำเสนอข่าวมากกว่า  ที่ทาง กสทช. ควรเข้ามามีบทบาทควบคุมไม่ให้เกิดความดรามามากจนเกินไป  เพราะห่วงว่าในอนาคตสังคมจะเกิดความชินชาต่อความรุนแรง  โดยพฤติกรรมของความรุนแรงจากการนำเสนอข่าวจะเริ่มจาก 1.เลียนแบบหรือเป็นแบบอย่าง 2 ชินชา และ 3.ลดความยับยั้งชั่งใจ ซึ่ง กสทช.สามารถเข้ามาดูแลและควบคุมได้ตั้งแต่สื่อหลัก รวมถึงสื่อออนไลน์ที่มีการลงทะเบียน  เพราะบทเรียนจากการนำเสนอข่าวจะเห็นว่าทุกครั้งมีบทเรียนไม่ซ้ำกันและดรามาความรุนแรงก็แตกต่างกัน ทั้งนี้การติดตามข่าวแบบทุกนาที หรือทุกชั่วโมง ทำให้เกิดความเครียดและท้ายที่สุดสังคมก็จะชินชา