ชายชาวชัยภูมิ ยังไม่รับชี้เป้าตำรวจ ตม.อุ้มชาวจีน

วันที่ 23 มี.ค. 2566 เวลา 11:13 น.

ห้องข่าวภาคเที่ยง - ผู้ต้องสงสัยที่ทำหน้าที่ชี้เป้าให้กับตำรวจ ตม. เข้าไปอุ้มชาวจีนไปรีดเงินกว่า 1 ล้านบาท ยังคงปากแข็ง ให้การปฏิเสธไม่เกี่ยวข้อง แต่ตำรวจเชื่อว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้ รับจ้างทำบัตรประชาชนปลอม และพาชาวจีนไปทำหนังสือเดินทางในวันเกิดเหตุ ก่อนจะถูกอุ้ม หลังจากที่ตำรวจชุดสืบสวนนครบาล ไปควบคุมตัว นายโอภาส ซึ่งเป็นนายหน้าที่พาผู้เสียหายชาวจีนไปทำหนังสือเดินทาง จากจังหวัดชัยภูมิมาสอบปากคำ หลังต้องสงสัยว่าเป็นผู้ชี้เป้าให้กับตำรวจ ตม. 5 นาย เข้าไปอุ้มรีดเงินกว่า 1 ล้านบาท จากบ้านพักย่านดินแดง โดยผู้ต้องสงสัยรายนี้เคยมีประวัติร่วมก่อเหตุอุ้มรีดทรัพย์แบบเดียวกันนี้ในพื้นที่ สน.โคกคราม เมื่อปี 2560 และถูกดำเนินคดีฐานสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐ ปลอมบัตรประจำตัวประชาชนฯ เมื่อปี 2565 ซึ่งตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา นายโอภาส ยังคงให้การภาคเสธว่า รู้จักกับผู้เสียหายชาวจีน และแนะนำวิธีการที่จะอยู่ในประเทศไทยได้นานขึ้น แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนชี้เป้าให้กับตำรวจ ตม. เข้าไปอุ้มผู้เสียหาย เบื้องต้น ตำรวจระบุว่า นายโอภาส เป็นผู้ที่ประสานทำบัตรประชาชนปลอมให้กับชาวจีนแล้วยังเป็นผู้นำชาวจีนไปทำหนังสือเดินทางในวันเกิดเหตุ ก่อนจะพาชาวจีนกลับไปที่บ้าน อ้างว่าเอกสารไม่ครบก่อนจะถูกตำรวจ ตม. ไปรอที่บ้านดักอุ้มไปรีดเงิน ส่วนตำรวจ ตม. 3 นาย ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สน.ดินแดง ยังคงถูกนำตัวไปแยกสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างเคร่งเครียด แต่ทั้ง 3 นาย ยังคงให้การภาคเสธว่าไปจับกุมชายชาวจีน แต่ไม่ได้เรียกรับเงิน ก่อนที่ช่วงสายที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนนำตัวทั้ง 3 นาย ไปฝากขังต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเจ้าพนักงาน ที่อาศัยตำแหน่งหน้าที่การงานของตนเองในการสร้างโอกาสกระทำผิด ทำลายความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรม หากปล่อยตัวชั่วคราวอาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ระหว่างการควบคุมตัวขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ตำรวจทั้ง 3 นาย ไม่ตอบคำถามใด ๆ ส่วนพันตำรวจตรีอีก 1 นาย ที่ถูกออกหมายจับและยังหลบหนีอยู่ ญาติได้ประสานตำรวจมาแล้วว่าอยู่ระหว่างเกลี้ยกล่อม หากสำเร็จก็จะประสานไปรับตัวในต่างจังหวัดวันนี้