สมชัย เผยยุบ ภูมิใจไทย ขึ้นกับ กกต. ตีความ

วันที่ 20 มี.ค. 2566 เวลา 06:38 น.

เช้านี้ที่หมอชิต - หนึ่งในประเด็นที่ นายชูวิทย์ นำมาจัดการพรรคภูมิใจไทย คือ การยื่นคำร้อง กกต.ให้ตรวจสอบการรับบริจาคเงินเข้าพรรค อาจขัดมาตรา 72 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งมีโทษถึงยุบพรรค แนวโน้มเรื่องนี้จะเป็นไปได้แค่ไหน เราไปสอบถาม อาจารย์สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ที่ยกกรณียุบพรรคอนาคตใหม่มาเทียบ พร้อมระบุว่า กกต.เคยตีความไว้แบบกว้างมาก เรื่องนี้จึงขึ้นกับ กกต. เท่านั้น อาจารย์สมชัย ขยายความถึงเจตนารมณ์และแนวปฏิบัติในอดีตของกฎหมายนี้ว่า คำว่าเงินที่ได้มาโดยรู้หรือควรจะรู้ ว่ามาจากแหล่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ปกติจะหมายถึงเงินสีเทา เช่น เงินจากการค้ายาเสพติด บ่อนการพนัน หรือสินค้าผิดกฎหมายต่าง ๆ เนื่องจากไม่ปรารถนาให้คนที่ทำรายได้จากธุรกิจสีเทาเหล่านี้บริจาคให้พรรคเมือง แล้วทำให้พรรคการเมืองต้องอยู่ใต้อานัติของคนทำผิดกฎหมายเหล่านั้น แต่กฎหมายนี้เคยถูกนำไปตีความในกรณีเงินนายธนาธร ที่ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ ซึ่ง กกต.ตีความคำว่ารายได้ของพรรคการเมืองไม่มีคำว่าเงินกู้อยู่ด้วย ให้ถือว่าเป็นเงินที่ไม่ชอบด้วยฎหมาย และเป็นเหตุของการยุบพรรค จึงเป็นการตีความที่ค่อนข้างกว้างมาก จึงต้องจับตาดูว่า ครั้งนี้ กกต.จะตีความอย่างกว้างหรืออย่างแคบ ส่วนเรื่องระยะเวลาการทำงานของ กกต. ในกรณีนี้จะทำได้ก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ หากเป็นไปตามขั้นตอนปกติ เชื่อว่าไม่ทัน เพราะกระบวนการจะเริ่มจากเลขาธิการ กกต.ใช้เวลา 7 วัน พิจารณาว่าจะรับเรื่องไว้หรือไม่ จากนั้นจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมารวบรวมข้อเท็จจริง ซึ่งจะต้องเปิดโอกาสให้ฝ่ายถูกร้องได้มาชี้แจงข้อเท็จจริงด้วย กระบวนนี้กฎหมายเขียนไว้ 30 วัน แต่สามารถขอขยายได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะขอขยายกัน ขยายครั้งแรก 30 วัน ครั้งที่สองได้อีก 30 วัน เมื่อได้ข้อสรุปจะส่งไปยังเลขาธิการ กกต. เพื่อนำเสนอ กกต.ชุดใหญ่พิจารณา ดังนั้น กระบวนการโดยเร็วแบบปกติ อย่างน้อยคือ 2 เดือน แต่ถ้าขยันผิดปกติ ก็สามารถเร็วกว่านี้ได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังไม่จบที่ กกต. แต่ต้องไปต่อที่ศาลรัฐธรรมนูญด้วย เมื่อถามถึงสำหรับคดีต่าง ๆ ที่พรรคภูมิใจไทยกำลังโดนเล่นงานอยู่ช่วงนี้ อย่างกรณีมาตรา 144 (ห้ามกรรมาธิการ หรือ สส.ไปยุ่งเกี่ยวกับงบประมาณแผ่นดินแปรลงพื้นที่ตัวเอง) ที่ฝ่ายค้านยื่นศาลรัฐธรรมนูญแล้วนั้น นายสมชัย ตอบว่าก็ขึ้นกับหลักฐานของฝ่ายค้าน ถ้ามีหลักฐานชัดเจนจะมีความผิดทั้งแพ่งและอาญา ทางแพ่งคือทำให้รัฐเสียวงเงินไปเท่าไหร่ สมมติพันล้าน ก็ต้องเรียกคืนพันล้าน อายุความค่อนข้างยาวคือ 20 ปี เป็นมาตราที่ค่อนข้างดี แต่ก็ยังจะต้องใช้เวลานานอีกพอสมควร ส่วนคดีต่าง ๆ ที่ไปยื่น ป.ป.ช. ยิ่งต้องรอนานไปใหญ่ เพราะจะต้องตั้งกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง บางคดี 3 ปี 5 ปี แค่ 2 ปี ก็ถือว่าเร็วแล้วสำหรับ ป.ป.ช. ดังนั้น บรรดาคดีต่าง ๆ ที่ยื่นเข้ามาเพื่อจัดการพรรคภูมิใจไทยช่วงนี้ เชื่อว่าจะไม่มีคดีใดเสร็จทันก่อนเลือกตั้งแน่นอน