ตร.แบ่งทีมล่า นอมินีผับค้าประเวณีเด็กป่าตอง

วันที่ 20 มี.ค. 2566 เวลา 07:11 น.

สนามข่าว 7 สี - ตำรวจแบ่งทีมล่าเจ้าของผับป่าตอง 3 ภาค หลังพบกระจายธุรกิจตามเมืองท่องเที่ยว ถือวีซานักลงทุนระยะยาว หรือ อีลิท การ์ด เข้ามาในไทยตั้งแต่ปี 2542 จากกรณีที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง จับกุมผู้ต้องหาค้าประเวณีและการค้ามนุษย์ 2 ราย ที่บาร์ ถนนบางลา ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต โดยมีการจับกุมผู้เกี่ยวข้องเป็นหญิง 2 ราย พร้อมกับช่วยเหยื่อที่เป็นหญิงสาวอายุต่ำกว่า 15 ปี และต่ำกว่า 18 ปี เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา คดีนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้ลงพื้นที่ไปที่จังหวัดภูเก็ต และประชุมทีมสืบสวนสอบสวน พบว่า เจ้าของผับ คือ นายรอนนี่ เป็นชาวสวิตเซอร์แลนด์ ทำกับหุ้นส่วนอีก 2 คน เป็นชาวอังกฤษ และออสเตรเลีย ที่สมรสกับหญิงไทย ซึ่งจากการค้นประวัติการเดินทางเข้าประเทศ พบว่า นายรอนนี่ ถือวีซา อีลิท การ์ด ซึ่งเป็นวีซาสำหรับนักลงทุนระดับ VVIP ออกโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางเข้าในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2542 และเข้ามาทำธุรกิจผับบาร์มาระยะหนึ่งแล้ว โดยเริ่มจากในพื้นที่บางรัก กรุงเทพมหานคร ก่อนจะสยายปีกไปพัทยา และภูเก็ต โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนิยมซื้อบริการเด็ก ซึ่งล่าสุด นายรอนนี่ ได้ขึ้นเครื่องบินหนีไปที่ สปป.ลาว แล้ว โดยตำรวจได้ประสานทางการลาวเพื่อให้ช่วยผลักดันกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย นอกจากนี้ ยังให้ทีมสรรพากรขยายผลเรื่องการชำระภาษี และการฟอกเงินด้วย โดยในส่วนการเป็นนอมินี ผบช.ตร.ภ.8 ได้สั่งตั้งชุดทำงานร่วมกับทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ขยายผลทั้งหมด รวมทั้งผู้ใช้บริการเด็กด้วย ล่าสุด มีรายงานว่า เมื่อวานนี้ตำรวจได้กระจายกำลังกันเข้าค้นสถานบริการ ที่พบว่ามีความเชื่อมโยงกับคดีนี้ ทั้งในพื้นที่บางรัก และพัทยา พบว่าทั้ง 2 สถานบริการ ประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ยังพบการค้าประเวณีเด็กเหมือนในกรณีแรกที่ป่าตอง สำหรับเด็กที่ได้รับการช่วยเหลือออกมา 8 คน อยู่ในความดูแลของ พม. ที่บ้านพักเด็กภูเก็ต และยังมีเบาะแสด้วยว่า ยังมีเด็กอีกอย่างน้อย 3 คน อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย แต่เป็นการทำงานที่บาร์อีกแห่ง ซึ่งขณะนี้ตำรวจและสหวิชาชีพกำลังเร่งขยายผล โดยวันนี้ (20 มี.ค.) จะมีการประชุมวางกรอบการทำงานอีกรอบ เพื่อติดตามความคืบหน้าการขยายผล