อ้างถูกหลอกเป็น บัญชีม้า เพื่อนบ้านแฉเต็มใจขายบัญชี จ.อุบลราชธานี

วันที่ 17 มี.ค. 2566 เวลา 16:08 น.

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หญิงเก็บขยะร้องขอความเป็นธรรม อ้างถูกหลอกให้เปิด "บัญชีม้า" จนถูกหมายเรียกจากตำรวจ แต่เพื่อนบ้านแฉกลับ เต็มใจขายบัญชีเพื่อแลกรับเงิน  อ้างถูกหลอกเป็น บัญชีม้า เพื่อนบ้านแฉเต็มใจขายบัญชี จ.อุบลราชธานี วันนี้ (17 มี.ค.) นางประยงค์ อายุ 58 ปี ชาวอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ร้องขอความเป็นธรรมจากศูนย์ดำรงธรรม และสำนักงานยุติธรรมจังหวัด หลังจากได้รับหมายเรียก สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าเป็นบัญชีม้า นางประยงค์ บอกว่า ทำอาชีพเก็บของเก่าขาย โดยช่วงเดือนมกราคม ที่ผ่านมา เพื่อนบ้านเข้ามาถามว่าอยากได้เงิน 400 บาท หรือเปล่า ด้วยความยากจน จึงตอบตกลง ก่อนที่เพื่อนบ้านจะนำข้อมูลส่วนตัวไปเปิดบัญชี โดยไม่รู้ว่าเอาไปทำอะไร ส่วนเงิน 400 บาท ที่ได้มา ได้เอาไปซื้อข้าวสารและอาหาร เพื่อเอาไปเลี้ยงหลาน 7 คน กระทั่งตำรวจออกหมายเรียก แจ้งว่า บัญชีในชื่อของตนเอง ถูกนำไปหลอกคนอื่น ขณะที่เพื่อนบ้าน อ้างว่า ลูกสาวของนางประยงค์เอง ที่คะยั้นคะยอให้ตนเองพา นางประยงค์ ไปเปิดบัญชีธนาคาร เพราะมีคนในเฟซบุ๊กติดต่อขอรับซื้อบัญชี เมื่อเสร็จแล้วก็ส่งบัญชีให้ผู้ที่รับซื้อ โดยเรื่องที่ถูกนำบัญชีไปหลอกคนอื่น ขอยืนยันว่า นางประยงค์ รู้เรื่องทั้งหมด และเคยเปิดบัญชีทำแบบนี้มาแล้ว 5 ครั้ง ด้าน นางสาวธัญทิพย์ ยศกฤตวิทย์สกุล ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่าเบื้องต้นประสานไปหา สภ.บางแก้ว เพื่อขอขยายเวลาการให้ปากคำ และขอให้มีการส่งประเด็นคำถามประกอบสำนวนมายัง สภ.วารินชำราบ ให้ทำการสอบสวนแทน กฎหมายเอาผิด บัญชีม้า บังคับใช้วันนี้ กรณี "บัญชีม้า" ทาง นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 โดยกฎหมายมีผลบังคับตั้งแต่วันนี้ (17 มี.ค.) เป็นต้นไป หนึ่งในนั้นมีเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับ "เจ้าของบัญชีม้า" หรือ "เบอร์ม้า" ซึ่งมีโทษอาญาหนัก จำคุก 3 ปี หรือ ปรับ 300,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงผู้ที่ได้เป็นธุระจัดหา โฆษณา เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้เช่า หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนหมายเลขโทรศัพท์ มีโทษอาญาหนักเช่นกัน คือ จำคุกตั้งแต่ 2-5 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 200,000-500,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ