สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตรกิจการของบริษัท ลูเมนตั้ม อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด

วันที่ 2 ก.พ. 2566 เวลา 20:05 น.

เวลา 09.12 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรกิจการของบริษัท ลูเมนตั้ม อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านเลเซอร์ สำหรับการประยุกต์ใช้งานที่หลากหลาย อาทิ เลเซอร์ในอุตสาหกรรม เช่น การตัดเหล็ก เลเซอร์ที่ใช้ในเครื่องสำอาง อุปกรณ์สื่อสารทางแสงที่ใช้ส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ต รวมทั้งโฟโตอิเลกทรอนิกส์ และใยแก้วนำแสง สำนักงานใหญ่อยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีสาขากว่า 10 บริษัทในประเทศต่าง ๆ สำหรับในประเทศไทย เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2559 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังร่วมมือกับหน่วยราชการ และสถาบันการศึกษา เปิดโอกาสและถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดการพัฒนาบุคลากร และพัฒนาเทคโนโลยีด้านเลเซอร์ อาทิ สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา ส่งนักศึกษาเข้ามาฝึกงาน ตั้งแต่ปี 2561 แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ ฝึกอบรมระยะสั้น 2-3 เดือน โครงการพิเศษ ที่ไปฝึกงานในโรงงานผลิตอุปกรณ์ ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ตาม "โครงการเรียนคู่งาน งานคู่เรียน" และการศึกษาแบบทวิภาคี ทั้งระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ จนถึงปริญญาตรี เพื่อเพิ่มทักษะในการทำงาน โอกาสนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการการวิจัยและพัฒนาของบริษัทฯ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี และบุคลากร ซึ่งจะส่งผลต่อการจ้างงานของบุคคลในสายอาชีพ และเพิ่มขีดความสามารถให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ ซึ่งนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา ได้นำปัญหาจากการฝึกงาน มาพัฒนาเป็นโครงงาน เพื่อแก้ปัญหาในสายงานต่าง ๆ เช่น โครงงานระบบตรวจวัดความชื้นและกำจัดความชื้นภายในตู้เก็บอะไหล่อัตโนมัติ เนื่องจากพบว่า การทำงานของตู้ระบบเดิม ไม่มีระบบตัดก๊าชไนโตรเจน แม้ว่าความชื้นอยู่ในระดับที่กำหนดแล้ว เกิดความสิ้นเปลืองในการใช้ทรัพยากร ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งหลักการทำงานจะใช้เซนเซอร์ตรวจวัดความชื้นภายในตู้ ร่วมกับโปรแกรมควบคุมและสั่งการปิดวาล์วก๊าชไนโตรเจน นอกจากนี้ ได้นำความรู้ มาพัฒนาเป็นโครงงานเพื่อแก้ปัญหาในสายงานผลิต เช่น อุปกรณ์หยิบจับชิ้นงาน หรือ ฟิกเจอร์ อบกาวยูวีแบบกึ่งอัตโนมัติ เพื่อลดขั้นตอนการผลิต ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้แม่นยำ สามารถนำไปใช้ได้ในทุกสายการผลิต และโครงงานระบบคำนวณประสิทธิภาพโดยรวมของเครื่องจักร เพื่อให้สามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาได้ทันที บริษัทฯ ยังเปิดโอกาสให้พนักงานไปศึกษาเพิ่มเติมตามสายงาน ที่สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา เพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้ตรงกับสายงาน และนำความรู้ที่ได้มาพัฒนาต่อยอดให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด