สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานเพลิงศพพระราชญาณมงคล (เสน่ห์ ปภงฺกโร)

วันที่ 29 ม.ค. 2566 เวลา 20:01 น.

เวลา 17.41 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังเมรุชั่วคราว วัดปรมัยยิกาวาส อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ในการพระราชทานเพลิงศพพระราชญาณมงคล (เสน่ห์ ปภงฺกโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดปรมัยยิกาวาส และอดีตเจ้าคณะตำบลปากเกร็ด ซึ่งมรณภาพเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2564 สิริอายุ 70 ปี พรรษา 51 พระราชญาณมงคล มีนามเดิมว่า เสน่ห์ แดงเฟื่อง เกิดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2493 เมื่ออายุ 12 ปี บรรพชาที่วัดใหญ่สว่างอารมณ์ มีพระนันทวิริยาจารย์ (กุหลาบ ธัมมวิริโย) เจ้าคณะอำเภอปากเกร็ด เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาเมื่ออายุ 20 ปี อุปสมบท ณ วัดเสาธงทอง มีพระไตรสรณธัช (มาลัย ปุปผทาโม) วัดปรมัยยิกาวาส เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “ปภงฺกโร” แปลว่า ผู้กระทำซึ่งแสงสว่าง พระราชญาณมงคล เป็นพระเถราจารย์เชื้อสายไทย-รามัญ เป็นพระนักพัฒนาที่พุทธศาสนิกชนเลื่อมใสศรัทธา ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดปรมัยยิกาวาส ได้ทำนุบำรุงวัดให้งดงาม จัดระเบียบการปกครองให้พระภิกษุสามเณรทุกรูปปฏิบัติตามพระธรรมวินัยและกฎของมหาเถรสมาคมอย่างเคร่งครัด ด้านการเผยแผ่หลักธรรมได้ใช้ธรรมะสอนชาวบ้านให้ประกอบสัมมาชีพด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิตอย่างสมถะและพอเพียง อีกทั้งเป็นผู้เอาใจใส่ในศิลปวัฒนธรรมและงานประเพณีของชาวไทยเชื้อสายรามัญเสมอมา รวมทั้งการเจริญพระพุทธมนต์และแสดงพระธรรมเทศนาภาษารามัญถูกต้องตามอักขรวิธี