ขยี้ข่าวใหญ่ : กกต.ร่อนจดหมาย เตือน พรรคการเมือง ใกล้ถึงวันเลือกตั้งแล้ว

วันที่ 29 ม.ค. 2566 เวลา 12:01 น.

ข่าวเด็ด 7 สี - สัปดาห์นี้มีข่าวใหญ่ที่ต้องขยี้กันเลย เพราะเกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณ ซึ่งก็คือภาษีของพวกเรา เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ครม. มีมติเห็นชอบการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี ปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 3.55 ล้านล้านบาท เมื่อเปิดดูไส้ในมีการตั้งงบผูกพันมากถึงกว่า 3 แสนล้านบาท เลยทีเดียว กกต.ร่อนจดหมาย เตือนพรรคการเมือง ใกล้ถึงวันเลือกตั้งแล้ว เรื่องนี้ก็ทำเอาเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนักเหมือนกัน เพราะรัฐบาลชุดนี้ต้องบอกว่าอยู่ในภาวะที่นับถอยหลังแล้ว ถึงขนาด กกต. ส่งหนังสือไปยังพรรคการเมืองต่าง ๆ เตือนแล้วว่า เตรียมตัวให้ดีนะ ถึงเวลาต้องส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง สส.กันแล้ว โดยแจ้งว่าอายุของสภาผู้แทนราษฎรจะสิ้นสุดลงวันที่ 23 มีนาคม ต้องจัดเลือกตั้งใน 45 วัน หรือกรณียุบสภาต้องจัดเลือกตั้ง 45-60 วัน เพื่อเตรียมความพร้อมในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส. จึงขอให้พรรคการเมืองเร่งดำเนินการทั้งเรื่องสมาชิกพรรค เรื่องการจัดตั้งสาขา หรือตัวแทนประจำจังหวัด จัดให้มีการสรรหาผู้สมัคร สส. และเลือกกรรมการบริหารพรรคให้ครบถ้วน เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้อง ล่าสุดเมื่อวานนี้ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่กฎหมายลูกสองฉบับเกี่ยวกับการเลือกตั้งแล้ว โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันนี้ คราวนี้เรามาดูกันว่า สัญญาณเลือกตั้งแรงชัด แล้วไปเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องจัดวางงบฯ ผูกพันกันอย่างไร เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ถ้ายุบสภาไปแล้ว หรือแม้แต่พ้นตำแหน่ง เพราะครบวาระ ก็ถือว่าเป็นรัฐบาลรักษาการ มีกติกาตามรัฐธรรมนูญ จำกัดอำนาจก่อนการเลือกตั้งไว้ ตามดูอำนาจ "ครม.รักษาการ" ทำอะไรได้บ้าง? อำนาจที่ถูกจำกัดจะมีตั้งแต่ ห้ามโยกย้ายและถอดถอนบุคลากรของรัฐ ห้ามใช้จ่ายงบประมาณสำรองเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็น ห้ามก่อภาระผูกพัน ครม.ชุดต่อไป แต่บางเรื่องก็ทำได้ ถ้าเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี หรือได้รับความเห็นชอบจาก กกต. และยังมีข้อห้ามอีกประการหนึ่งคือ ห้ามใช้ทรัพยากรของรัฐให้เกิดผลในการเลือกตั้ง เราทำไทม์ไลน์ให้เห็นชัด ๆ คุณผู้ชมจะเห็นเลยว่ากระบวนการจัดทำงบประมาณปี 2567 ตั้งแต่ต้นจนเกือบจะจบ อยู่ในความรับผิดชอบของรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคม ซึ่งกำหนดไว้ว่าจะต้องนำเสนอให้ ครม. พิจารณาเห็นชอบ ก็ตกวงรอบที่รัฐบาลชุดนี้ เปิดไทม์ไลน์เลือกตั้ง หลังกฎหมายลูก 2 ฉบับ มีผลบังคับใช้ ทำไมผมถึงพูดอย่างนี้ พาคุณผู้ชมมาดูกันต่อเลย เอาแบบเร็ว ๆ หลังกฎหมายลูกมีผลบังคับใช้วันนี้ คุณแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เคยบอกไว้ว่า จะต้องใช้เวลาเตรียมการ 25 วัน เพื่อแบ่งเขต และอีก 20 วัน ให้พรรคการเมืองเตรียมการสำหรับการทำไพรมารีโหวต หลงจ้ง รวมแล้ว 45 วัน เรามานับกันต่อจากกรอบเวลานี้ เริ่มนับจากวันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ ก็คือวันนี้ไป 45 วัน จะครบกำหนดในวันที่ 14 มีนาคม เท่ากับว่าที่ใครคิดว่าจะมีการยุบสภาหนีศึกซักฟอกทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ ก็น่าจะปิดประตูตายไปได้เลย และถ้าเป็นไปตามกรอบนี้ ก็มีความเป็นไปได้ที่การยุบสภาจะเกิดขึ้นนับจากวันที่ 15 มีนาคม เป็นต้นไป ซึ่งก็เป็นห้วงเวลาก่อนครบวาระเพียงแค่ 8 วันเท่านั้น ดังนั้นไม่ว่าจะยุบสภาก่อนหรือจะอยู่ครบวาระ การเลือกตั้งก็น่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม แต่กว่าจะมี ครม.ชุดใหม่ เข้ามาก็ยังต้องใช้เวลาหลายเดือน อย่างเลือกตั้งคราวที่แล้ว 24 มีนาคม 2562 กว่าจะได้ ครม.ชุดใหม่ กินเวลาเกือบ 3 เดือน ครม.ผูกพันงบฯ 3 แสนล้านบาท ทิ้งทวน หรือ ไฟต์บังคับ? ไล่เรียงให้คุณผู้ชมเห็นถึงกระบวนการจัดทำงบประมาณ ปี 2567 และกรอบเวลาดำเนินการไปจนถึงไทม์ไลน์กรอบเวลาเลือกตั้งไปแล้ว เราส่ง คุณฐิตาภัสร์ ศิริธัญญะวงศ์ ไปสัมภาษณ์ ท่านผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ สอบถามกันตรง ๆ ว่า ทำไมต้องเร่งทำเรื่องงบประมาณ ทิ้งทวนอย่างที่เขาวิจารณ์กัน หรือว่ามันเป็นไฟต์บังคับที่ต้องทำ และรัฐบาลใหม่ยังขยับอะไรได้อีกหรือไม่ ไปฟังคำอธิบายกันเลย และเสือปืนไว ปาดก่อนใคร ก็คือ พี่ใหญ่ บิ๊กป้อม นั่นเอง เกิดเหตุซ้ำ ๆ กับคำถามตามซักบ่อย ๆ ก็ทำเอาทั้ง 2 ป. อารมณ์เสียไปเหมือนกัน หงุดหงิดถึงขนาดไหน ไปชมคลิปน้องเล็ก บิ๊กตู่ กัน บิ๊กตู่ หงุดหงิด หลังถูกสะกิดถาม เรื่อง บิ๊กป้อม ปาดหน้า เป็นบรรยากาศที่เกิดขึ้นหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา ตามภาพที่เห็นเลย ผู้สื่อข่าวก็รอว่าท่านจะแถลงอะไร ปรากฏแค่บอกว่า ทุกอย่างเป็นไปตามเอกสารแถลงข่าว ซะงั้น โดยในวันเดียวกันนั้น มีรายงานด้วยว่า 3 ป. คือทั้งบิ๊กป้อม บิ๊กตู่ และ บิ๊กป๊อก มีการปิดห้องคุยกันก่อนประชุมราว 5 นาที หลังจากนั้นก็มีการยืนยันกันหลายครั้งว่า ไม่ได้สนใจเรื่องปาดหน้า มีแต่นักข่าวนี่แหละที่คอยจับจ้อง ปิดดีลการเมือง อุตตม-สนธิรัตน์ ซบรังเก่า พปชร. ขณะเดียวกัน ก็ยังมีความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ กำลังจะได้คนกันเอง กลับบ้านเก่า คือ ทีมอาจารย์สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ไปตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย ซึ่งก่อนหน้านี้เปิดดีลการเมืองกับไทยสร้างไทยไว้ แต่ดูเหมือนจะไม่ลงตัว สุดท้ายกลับไปตายรัง ปรากฏภาพอย่างที่คุณผู้ชมเห็นบนจอ มีบิ๊กป้อมนั่งพูดคุยกับคุณอุตตมะ สาวนายน และคุณสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ดีลนี้ปิดจ๊อบเรียบร้อย เตรียมแถลงรับขวัญกันอย่างเป็นทางการวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) นายกฯ ปราศรัยใหญ่ครั้งแรก เพื่อไทย-ปชป. ก็คึกคัก ขณะที่การลงพื้นที่ก็เข้มข้น เมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรีปราศรัยในฐานะเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเป็นครั้งแรก บนเวทีของพรรครวมไทยสร้างชาติที่ชุมพร ก็ได้รับการตอบรับที่อุ่นหนาฝาคั่งเลยต้องโชว์แหล่งใต้กันซะหน่อย อีกเวทีคึกคักไม่แพ้กันเป็นของพรรคเพื่อไทยที่หนองคาย คุณอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ยังอ้อนชาวบ้าน ขอคะแนนแบบแลนสไลด์ ซึ่งจากนี้ไปพรรคเพื่อไทยก็มีคิวปราศรัยใหญ่ทุกสัปดาห์ ส่วนประชาธิปัตย์ ก็ไม่น้อยหน้า เปิดตัวผู้สมัคร สส.อีสาน 99 คน เดินหน้านโยบาย สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ แม้จะยังอยู่ในอาการซวนเซอยู่บ้าง จากกรณีสส.ทยอยลาออก แต่คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค บอกสู้ไม่ถอย แม้ก่อนหน้านี้จะสามวันหนี สี่วันล่ม แต่เชื่อได้เลยว่า 15-16 กุมภาพันธ์นี้ ฝ่ายค้านมากันพรึ่บแน่นอน เพราะเป็นเดิมพันครั้งสุดท้าย