แม่เด็ก 12 เผย ตากับยายพาลูกสาวไปส่งที่บ้านป้าจริง แต่หาบ้านไม่เจอ จึงปล่อยเด็กลงกลางทาง

วันที่ 24 ม.ค. 2566 เวลา 08:32 น.

แม่เด็ก 12 เผย ตากับยายพาลูกสาวไปส่งที่บ้านป้าจริง แต่หาบ้านไม่เจอ จึงปล่อยเด็กลงกลางทาง ส่วนลูกสาวนั้น มีนิสัยชอบขโมยสิ่งของผู้อื่น หลายครั้งจนตนเองทนไม่ไหว ยอมรับ รอยฟกช้ำตามตัวลูกสาว อาจเกิดจากยายกับพ่อเลี้ยงตี แต่ก็ตีไม่กี่ครั้ง เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งมีเด็กหญิงอายุ 12 ปี ถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้ อยู่ที่ริมถนนในหมู่บ้านตำบลด่านช้าง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู และตามเนื้อตัวของเด็กหญิง มีรอยฟกช้ำคล้ายๆกับโดนทำร้ายร่างกาย นางสาวสุวรรณา อายุ 47 ปี ป้าของเด็กหญิงเอ อายุ 12 ปี ( นามสมมุติ) ได้เล่าว่า น้องชายคือนายสุเมธ ได้แต่งงานกับนางนิ่ม และมีบุตรด้วยกัน 1 คน คือเด็กหญิงเอ หลังจากอยู่กินกันได้สักพักจึงได้แยกทางกัน ขณะนั้นเด็กหญิงเอ อายุประมาณ 4 ขวบ พอถึงอายุ 8 ขวบ นางนิ่ม ซึ่งเป็นมารดาได้ลงมารับเด็กหญิงเอ โดยแจ้งว่าจะพาไปเลี้ยงเอง โดยได้นำไปอยู่ด้วยที่จังหวัดชลบุรี ส่วนนายสุเมธ พ่อของเด็กหญิงเอ น้องชายของตนเอง ก็ไปทำงานที่กรุงเทพฯ ส่วนนางนิ่ม มารดาของเด็กหญิงเอ มีสามีใหม่ ต่อมาตากับยายนำเด็กมาส่งทิ้งไว้ริมถนนจนพลเมืองดี พร้อมผู้ใหญ่บ้านนำมาส่งให้ตนเองที่บ้าน ทางด้าน พ.ต.อ.จักรพรรดิ วิจิตรไวทยะ ผกก.สภ.นากลาง ได้ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และบ้านพักเด็กจังหวัดหนองบัวลำภู ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และมาสอบปากคำเพิ่มเติมทางญาติของเด็กหญิง 12 ปี  และเนื่องจากผู้เสียหายเป็นเยาวชน ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และถูกทำร้ายร่างกายมาจาก ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ในพื้นที่ที่เกิดเหตุ จึงต้องมีทีมสหวิชาชีพ ในการร่วมสอบสวน ในเบื้องต้นได้พาเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลนากลาง ตามร่างกายมีรอยบาดแผลทั้งเก่าและใหม่ ตามร่างกายหลายจุด ส่วนคดีได้รับเป็นคดีอาญาแล้วและคดีทำร้ายร่างกายจะได้ประสานไปยัง สถานีตำรวจในพื้นที่ที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป โดยผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบพบว่าบริเวณหน้าร้านถ่ายเอกสาร ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้ จะอยู่ตรงข้ามกับบ้านของนางรัตติยา อนุสุริยา อายุ 40 ปี พลเมืองดี แต่จะเห็นไม่ชัดเท่าไหร่ เนื่องจากมีต้นมะม่วงบังอยู่ตรงจุดที่รถยนต์คันสีขาวมาจอดซึ่งในภาพจะเห็นว่า แสงไฟหน้ารถยนต์คันดังกล่าวขับเข้ามาในเวลา 03.52 น.จากนั้นก็จะเห็นว่า รถได้ขับมาจอดตรงข้างต้นมะม่วง กระทั่งคนขับได้เปิดประตูรถ และไฟในตัวรถก็เปิด จากนั้นคนขับก็เดินลงจากรถ ไปเปิดฝากระโปรงท้าย พร้อมทั้งหยิบสิ่งของลงจากรถหลายรอบ หลังจากนั้นคนขับก็เดินมาขึ้นรถแล้วก็ขับออกไป ซึ่งจังหวะที่รถออกไปจะเห็นว่า ตัวของน้องเอ ยืนอยู่ และเดินไปตรงที่คนขับรถ เอาของลงไปวางไว้ พร้อมกับเดินวนไปวนมา และต่อมามีนางรัตติยา อนุสุริยา อายุ 40 ปี พลเมืองดีบ้านตรงข้าม ออกมาพบน้องอยู่ในอาการหนาวสั่นและพาน้องไปพักในบ้านก่อนจะแจ้งผู้นำชุมชนพาน้องไปส่งที่บ้านญาติ     ต่อมานางนิ่ม มารดาของเด็กหญิงเอ ได้แจ้งทางสื่อมวลชนว่า ตากับยายได้พาบุตรสาวไปส่งที่บ้านป้าจริง แต่ไม่คิดว่าจะหาบ้านไม่เจอ จึงปล่อยน้องลงกลางทาง ถ้าตนเองลงไปส่งเองคงไม่มีปัญหา ซึ่งตนเองทำงานไม่สามารถลงไปส่งน้องด้วยตนเองได้ ส่วนเด็กหญิงเอ บุตรสาว มีนิสัยชอบขโมยสิ่งของผู้อื่น หลายครั้งจนตนเองทนไม่ไหว จึงว่าจะพาน้องลงไปส่งให้อยู่กับป้า ส่วนยายกับพ่อเลี้ยง ก็ได้ตีน้องจริง แต่ตีไม่กี่ครั้ง แต่เป็นการตีสั่งสอน โดยจากนี้จะได้ประสานผู้เป็นป้า เพื่อพูดคุยและหาข้อสรุป ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป.