ตัวแทนชาวนาพิจิตร ร้อง “ชัช เตาปูน” ถึงนายกฯ “อคส.”ตุกติกไม่ออก“ใบประทวน”รับจำนำข้าว ผ่านมา 17 ปี ทำชวดเงิน 58 ล้าน

วันที่ 19 ม.ค. 2566 เวลา 15:00 น.

วันนี้ (19 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่บ้านพักเตาปูน ได้มีกลุ่มตัวแทนชาวนาจาก จ.พิจิตร จำนวน 470 ครอบครัว นำโดย นายมุนินทร์ จันทรา เจ้าของโรงสี ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนแฉหน่วยงานองค์การคลังสินค้า จ.พิจิตร (อคส.) ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต พ.ศ.2548/2549 ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย. 48 แต่ยังไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าวเปลือกหอมมะลิ จำนวน 8,424.16 ตัน มูลค่า 58,847,401 บาท ซึ่งเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลทักษิณ ให้กับ นายชัชวาลล์ คงอุดม ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เพื่อให้ช่วยเร่งรัดติดตามเงินในโครงการดังกล่าวให้กับชาวนากลุ่มดังกล่าว นายมุนินทร์ กล่าวว่า ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทาง อคส.ไม่ออกใบประทวนสินค้าตามหน้าที่องค์การคลังสินค้าให้กับชาวนา ถือเป็นการผิดสัญญากับทางกลุ่มเกษตรกรชาวนา จนถึงเวลานี้รวม 17 ปีแล้ว ตนเองมีความตั้งใจยื่นหนังสือถึงท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติหรือรัฐบาลผู้บริหารสูงสุดของโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล เพื่อให้ช่วยติดตามการชำระเงินค่าจำนำข้าวเปลือกหอมมะลิจำนวน 8424.16  ตัน มูลค่า 48,847,401.24 บาท พร้อมดอกเบี้ย 15 เปอร์เซ็นต์ต่อปี คูณ 17 ปี แต่เรื่องไม่ถึงนายกฯตามที่ตนร้อง กลับส่งเรื่องกลับไปให้ อคส. อีก จึงไม่ถูกต้อง เพราะตนร้องนายกฯเพราะ อคส. ไม่ออกใบประทวนให้ชาวนา แต่กลับส่งเรื่องไปให้ อคส.อีก ตามรายละเอียดที่ปรากฏตามหนังสือรับเรื่องราวร้องทุกข์  นร.01650004201 ลงวันที่ 9 พ.ย. 65 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยขอให้นายกรัฐมนตรี หรือรัฐบาล ช่วยติดตามให้ชำระค่าจำนำข้าวเปลือกให้ชาวนา 470 ราย ที่ไม่ได้รับค่าจำนำข้าวเปลือกจากรัฐบาล โดยใบประทวนสินค้าไปทำสัญญาจำนำและแรกรับเงินจากรัฐบาลที่ธนาคาร ธ.ก.ส.พื้นที่ จ.พิจิตร ตั้งแต่ปีโครงการฯผลิต 2548/49 ตามหน้าที่ (อคส.) ถือว่าเป็นเรื่องผิดสัญญาต่อเกษตรกรชาวนาดังกล่าว ผ่านมาถึง 17 ปีเศษแล้ว และเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องชำระดอกเบี้ยคูณ 17 ปีเศษ ให้เกษตรกรตามกฎหมายและตามหน้าที่ของรัฐบาลด้วย ส่วนข้อพิพาทระหว่างฝ่ายโรงสีก้องเกียรติกับองค์การคลังสินค้า (อคส.) ก็เป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายต้องไปฟ้องร้องกันเอง และศาลจังหวัดพิจิตร และศาลอุทธรณ์ภาค 6 ก็พิพากษาว่าฝ่ายโรงสีก้องเกียรติฯไม่ได้ฉ้อโกงชาวนา และไม่มีหน้าที่ชำระค่าจำนำข้าวให้ชาวนา แต่เป็นหน้าที่ของ อคส.ที่ต้องออกใบประทวนข้าวเปลือกให้ชาวนาดังกล่าวไปรับเงินค่าจำนำข้าวที่ธนาคาร ธ.ก.ส. เพราะเกิดเป็นสัญญากับชาวนาจำนำข้าวกับโครงการฯรัฐแล้วนั่นเอง กรณีค่าจำนำข้าว ปี 2548/49 กว่า 8,000 ตัน มูลค่ากว่า 58 ล้านบาท ต่อมาเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 65 ตนเองได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของศูนย์รับเรื่องราวผู้ร้องทุกข์ของรัฐบาล สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าได้ส่งหนังสือเรื่องราวร้องทุกข์ดังกล่าวไปที่ อคส. แต่ไม่ส่งถึงนายกฯตามเจตนาที่ตนได้ร้องทุกข์ไว้ จึงเห็นว่าเป็นการไม่ถูกต้อง และไม่ถูกต้องเป็นอย่างยิ่ง ในเมื่อ อคส. ไม่ออกใบประทวนสินค้าข้าวเปลือกหอมมะลิให้เกษตรกร 470 ราย นำไปทำสัญญาจำนำและแลกรับเงินจำนวนดังกล่าวจากรัฐบาลที่ธนาคาร ธ.ก.ส. ในเขตพื้นที่ จ.พิจิตร ตามหน้าที่ อคส. หรือฝ่ายรัฐบาล ตนเองจึงได้นำหลักฐานเรื่องราวมาร้องทุกข์ต่อนายชัชวาลล์ ในฐานะที่เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ให้เร่งติดตามหรือสอบถามไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือรัฐบาลผู้บริหารสูงสุดของการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล ให้ชำระค่าจำนำข้าวให้กับเกษตรกร 470 ครอบครัว ตามความละเอียดตามหน้าที่ของรัฐบาลอีกครั้งโดยด่วนต่อไป ด้าน นายชัชวาลล์ กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากเกษตรกรชาวนาตั้งแต่กลางปี 2563 ว่าไม่ได้รับเงินจำนำข้าว จนปัจจุบันนี้กว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งทางรัฐบาลมีงบประมาณ โดยชาวนาไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงได้ให้ความช่วยเหลือ การดำเนินการตอนนี้ตัวแทนเกษตรกรได้ทำหนังสือร้องเรียนไปที่ศูนย์รับเรื่องราวผู้ร้องทุกข์ของรัฐบาล ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกทางศูนย์รับเรื่องราวผู้ร้องทุกข์ของรัฐบาล ได้ส่งเรื่องไปที่ อคส. ในเมื่อหน่วยงานนี้ไม่ออกใบประทวนให้ ส่งเรื่องไปทุกอย่างก็เงียบเหมือนเดิม ครั้งนี้ตนจะดำเนินการนำเรื่องนี้เรียนท่านนายกฯ เพื่อให้เร่งช่วยเหลือเกษตรกร กว่า 470 ครอบครัว เพราะเขาได้รับความเดือดร้อนมาหลายปีแล้ว ชาวนาส่งผลผลิตเข้าโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลแต่ไม่ได้เงิน เราต้องรีบให้ความช่วยเหลือเขาจนถึงที่สุด