สุดทน ! ชายอ้างเป็นร่างทรงเปิดบทสวดลั่นหมู่บ้าน ควงดาบขู่ฆ่า ชาวบ้านขวัญผวา

วันที่ 14 ม.ค. 2566 เวลา 09:22 น.

ชาวบ้านสุดทน ชายอ้างเป็นร่างทรงเปิดบทสวด ลั่นหมู่บ้าน ตั้งแต่เช้ายันค่ำ ชาวบ้านเข้าไปเจรจาถูกด่า ควงดาบขู่ฆ่า วานนี้ (13 ม.ค.66) นายพงษ์เทพ สิทธิพรหม ผญบ.บ้านเชียง ม.2 ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี นำชาวบ้าน และผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ภายในซอยพ่อคำพันธุ์ 1 ที่อยู่ภายในหมู่บ้าน หลังได้รับแจ้งว่า นาย อ. (นามสมมติ)  อายุ 49 ปี อ้างตัวเป็นร่างทรง ได้สร้างความวุ่นวาย และ รำคาญแก่ชาวบ้าน เนื่องจากเปิดบทสวด และ เพลงเสียงดัง มานานกว่า 3 ปี ชาวบ้านเล่าว่า นายอ. มีนิสัยคล้ายผู้หญิง เคยทำงานบาร์เกย์ในตัวเมืองอุดรธานี หลังจากนั้นกลับมาเปิดร้านคาราโอเกะที่บ้านแต่เปิดได้ไม่นานก็ปิดตัวลง บ้านก็ถูกยึด เลยมาอาศัยที่บ้านหลังนี้ ซึ่งเป็นบ้านของน้องสาว แล้วเปิดเป็นสำนักร่างทรงปู่ขุนเชียงสวัสดิ์ จนมีลูกศิษย์ ตั้งแต่ปี 2540 แต่ชาวบ้านไม่เห็นด้วย เพราะ ปู่ขุนเชียงสวัสดิ์ เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านมาก สำหรับปัญหาเรื่องเปิดเพลงเสียงดัง เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2562 ตอนั้น นาย อ. ได้เอาลำโพงขนาดเล็กมาเปิดหน้าบ้าน ชาวบ้านก็ยังพอทนได้ แต่เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว นายอ.เปลี่ยนลำโพงใหญ่ขึ้น เสียงดังมาก จนมีเรื่องกับชาวบ้าน ถึงขั้นที่ชาวบ้านทนไม่ไหว เอาอุจจาระมาปาใส่บ้าน จากนั้นก็เกิดทะเลาะวิวาทขว้างขวดใส่กัน และ นายอ. เคยถือดาบไปบุกรุกบ้านคนอื่น ข่มขู่ที่จะทำร้ายจนถึงชีวิต เพียงเพราะฝันว่า ถูกชาวบ้านคนดังกล่าวทำร้าย นอกจากเปิดเพลงเสียงดัง บางวันหลังทำพิธีเสร็จ ก็จะกินเหล้า สังสรรค์ สร้างความรำคาญ โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ติดกัน ซึ่งมีผู้ป่วยติดเตียง ต้องทนฟังเสียงมานาน ทั้งนี้ชาวบ้านบอกอีกว่า นาย อ. เคยพูดว่า ที่เปิดเพลงเสียงดัง เพราะต้องการให้ชาวบ้านเป็นบ้า เป็นโรคประสาท ถ้าใครป่วยก็ให้ตายไปเลย นายพงษ์เทพ สิทธิพรหม ผู้ใหญ่บ้าน เผยว่า นายอ. เปิดเพลงตั้งแต่ ตี5 – 3 ทุ่ม ได้รับเรื่องร้องเรียนหลายครั้งแล้ว ที่ผ่านมาเคยขอร้องในนาย อ. ลดเสียงเพลง แต่ นายอ. อ้างว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไร  เคยประสานไปยังตำรวจ ก็ทำได้แค่กล่าวตักเตือน เมื่อปลัดอำเภอลงตรวจสอบ ก็จะหนีไปที่อื่นสักพัก แล้วกลับมาทำพฤติกรรมเดิมอีก  ส่วนตอนนี้ นายอ. ได้หนีออกจากบ้าน เบื้องต้นทราบว่า เข้ามาพักอยู่ในตัวเมืองอุดรธานี และไม่สามารถติดต่อได้ ตอนนี้ชาวบ้านเกิดความหวาดระแวง เพราะไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดว่า นายอ. ทำไปเพื่ออะไร ป่วยมีอาการทางจิตหรือไม่ หรือ เป็นผลพวงจากยาเสพติด ก็ไม่มีหลักฐาน ถึงแม้ตอนนี้นาย อ. จะออกจากบ้านหลังดังกล่าวไปแล้ว แต่ก็ยังไม่อุ่นใจ กลัวกลับมาอีกเหมือนเคย จึงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยแก้ไขให้เด็ดขาด