รายงานพิเศษ : แตกตื่น หนุ่มป่วยจิตเวชอาละวาดทุบรถ 14 คัน พังเสียหาย จ.นนทบุรี

วันที่ 9 ธ.ค. 2565 เวลา 07:02 น.

สนามข่าว 7 สี - เหตุการณ์ระทึกนี้ นำมาเตือนผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วยจิตเวช เมื่อจู่ ๆ มีชายคนหนึ่งเกิดอาการคลุ้มคลั่ง และในมือถืออาวุธลักษณะคล้ายท่อนไม้ ไล่ทุบรถยนต์ที่จอดอยู่ทั้งหมดเสียหาย ทำให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์พากันแตกตื่น เหตุการณ์นี้เริ่มต้นจากอะไรและทำไมเราต้องนำมาเตือน ลงสนามข่าวนี้กับคุณธนโชติ อินต๊ะวิชา นี่เป็นภาพเหตุการณ์นาทีระทึก ที่หญิงคนหนึ่งบันทึกไว้ได้โดยโทรศัพท์มือถือของตนเอง จากภาพจะเห็นชายสวมเสื้อสีเหลือง ในมือถืออาวุธ ลักษณะคล้ายท่อนไม้ยาวประมาณ 50 เซนติเมตร แต่จู่ ๆ ชายคนนี้ก็กระหน่ำฟาดรถยนต์ที่อยู่ตรงหน้าอย่างรุนแรง ทำให้ผู้เห็นเหตุการณ์ต่างตื่นตกใจ ต้องรีบออกจากที่เกิดเหตุโดยด่วน เหตุการณ์สุดระทึกนี้ เกิดขึ้นบริเวณหน้าหน้าตึกผู้ป่วยนอก ภายในเขตพื้นที่ของโรงพยาบาลศรีธัญญา จังหวัดนนทบุรี เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ทราบต่อมาภายหลัง ผู้ก่อเหตุไม่ใช่ใครอื่นไกล แต่เป็นผู้ป่วยจิตเวชอายุ 22 ปี ที่กำลังรอพบแพทย์ตามคิวนัด ทางด้านแม่ของผู้ก่อเหตุ เล่าถึงสิ่งที่คาดว่าจะเป็นต้นตออาการคลุ้มคลั่งของลูกชายว่า ในวันนั้นตนเองรีบพาลูกมารักษาอย่างเร่งด่วน เพราะจู่ ๆ ลูกก็มีอาการหวาดกลัวคนจะมาทำร้าย และมีอาการเพ้อหนักขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ลูกชายตนเองนั่งรอพบแพทย์อยู่นั่น ด้วยความหงุดหงิดที่ถึงเวลาจะต้องกินข้าว ปนกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว จึงเริ่มกระวนกระวายคิดอยากจะหนี และพูดเพียงแต่ว่าจะมีคนมาทำร้ายตนเองซ้ำไปซ้ำมา แม่ของผู่ก่อเหตุ ยังเล่าให้กับทีมข่าวฟังอีกว่า เมื่อมาถึงหน้าโรงพยาบาลแล้ว และมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นก่อน ตนเองก็ไม่คิดที่จะยอมแพ้ เพราะอยากให้ลูกได้เข้ารักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ก็รีบบุกเข้าชาร์จตัวลูกชายอย่างรวดเร็ว และนำเข้าห้องฉุกเฉิน เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน ส่วนความคืบหน้าทางคดี เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ได้รวบรวมพยานหลักฐานไว้หมดแล้ว ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นผู้ป่วยจิตเวช และทางผู้ปกครองก็ได้มีการเจรจาชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น โดยทางบริษัทประกันภัยเข้าดูแลรถยนต์ที่เสียหายทั้งหมด 14 คัน ทางตำรวจจึงไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหากับชายคนดังกล่าว เพราะว่าเป็นผู้ป่วยที่ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ทั้งนี้ได้ฝากเตือนไปยังผู้ปกครองที่มีบุตรหลานป่วยด้วยโรคจิตเวช ให้มั่นสังเกตพฤติกรรมและรีบทำการรักษา ก่อนจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำอีก