สรุปผลจับขบวนการโกงค่าไฟฟ้า แอบขุดเงินดิจิทัล

วันที่ 8 ธ.ค. 2565 เวลา 07:06 น.

สนามข่าว 7 สี - DSI แถลงสรุปผลปฏิบัติการปราบโกงสายฟ้าฟาด จับผู้ต้องหาที่ร่วมกับกลุ่มคนไทยขโมยไฟฟ้าหลวงไปใช้ขุดบิตคอยน์ ทำให้รัฐเสียหายกว่า 500 ล้านบาท พร้อมตั้งข้อสังเกตอาจมีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเกี่ยวข้อง และผลกระทบอาจทำให้ค่าไฟฟ้ามีราคาสูงขึ้น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ร่วมกันตรวจสอบของกลาง เครื่องขุดเงินดิจิทัล รุ่นเอส 9 ประมาณ 3,500 เครื่อง ที่ยึดได้จากการเปิดปฏิบัติการปราบโกงสายฟ้าฟาด 41 จุด ในจังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพฯ ที่กลุ่มผู้ต้องหาลักลอบใช้กระแสไฟฟ้าของรัฐ นำไปทำเหมืองขุดบิตคอยน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัล เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ ระบุว่า ปฏิบัติการนี้ DSI จับกุมผู้กระทำผิดได้ในที่เกิดเหตุ 1 คน ให้การรับสารภาพ ทำแบบนี้มานานกว่า 2 ปีแล้ว เจ้าหน้าที่คำนวณเงินที่ได้เฉลี่ย 35 บาทต่อเครื่อง กับจำนวนของกลาง จะเท่ากับมีรายได้ประมาณ 4.2 ล้านบาทต่อเดือน หรือได้เงินไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท ขณะที่รัฐจะเสียเงินไปราว ๆ 20-30 ล้านบาท ต่อเดือน หรือประมาณ 500 ล้านบาท จากการลักลอบใช้ไฟฟ้าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และมีความเป็นไปได้สูงว่าอาจมีเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าบางรายให้การช่วยเหลือ นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังให้ข้อมูลว่า ตนเองยังมีลูกน้องอีกประมาณ 20 คน ซึ่งเป็นคนไทยทั้งหมดที่ยังไม่ถูกจับกุม อุปกรณ์และข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบมีเพียง 1% เท่านั้น หากคำนวณเป็นการกระทำผิด 100% ก็มีความเป็นไปได้ที่รัฐจะเสียหายค่าไฟฟ้ามากถึงกว่า 50,000 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ DSI จะขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป