ผู้ป่วยอีโบลาในยูกันดาเพิ่มขึ้นเป็น 109 คน และเสียชีวิตแล้ว 30 คน

วันที่ 27 ต.ค. 2565 เวลา 10:32 น.

ประเทศยูกันดายืนยันจำนวนผู้ป่วยอีโบลาเพิ่มขึ้นเป็น 109 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 30 คน โดยไวรัสอีโบราที่แพร่ระบาดอยู่ในยูกันดาคือ สายพันธุ์ซูดาน ซึ่งยังไม่มีวัคซีนที่ป้องกันได้ และกระทรวงสาธารณสุขยูกันดาจะประเมินประสิทธิภาพของวัคซีนอีโบลาสายพันธุ์ซูดาน 3 แบบ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า วันนี้ (27 ต.ค. 65) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของยูกันดา “เจน รูธ เอเซง” เผยว่า ยูกันดายืนยันจำนวนผู้ป่วยอีโบลาเพิ่มขึ้นเป็น 109 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 30 คน โดยผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยัน 15 คน เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ซึ่งในจำนวนนี้มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเสียชีวิตแล้ว 6 คน และขณะนี้ว่ารัฐบาลกำลังจัดตั้งศูนย์รักษาเพิ่มเติม ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขกำลังจัดตั้งศูนย์รักษาเพิ่มเติมในสนามกีฬามูลาโก โดยศูนย์แห่งใหม่จะเพิ่มจำนวนเตียงรักกษาผู้ป่วยอีโบลาเป็น 351 เตียง โดยไวรัสอีโบราที่แพร่ระบาดอยู่ในยูกันดาคือ สายพันธุ์ซูดาน ซึ่งยังไม่มีวัคซีนที่ป้องกันได้ ต่างจากสายพันธุ์ซาอีร์ที่พบได้ทั่วไปในการระบาดครั้งล่าสุดในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ เจน รูธ เอเซง ยังกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขจะประเมินประสิทธิภาพของวัคซีนอีโบลาสายพันธุ์ซูดาน 3 แบบ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยแบบแรกถูกพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด แบบที่ 2 ผลิตโดย Sabin Vaccine Institute ในสหรัฐอเมริกา และอีกแบบสุดท้าย ผลิตโดย Merck & Co ผู้ผลิตยาของสหรัฐฯ ทั้งนี้ วัตถุประสงค์หลักคือ เพื่อประเมินประสิทธิภาพในการปกป้องผู้ติดต่อกับผู้ป่วยอีโบลาภายใน 29 วัน นับจากการติดต่อ