ไวรัสอีโบลาลามในยูกันดา ประเทศในแอฟริกาตะวันออก พบติดเชื้อเพิ่มเป็น 11 ตาย 3

วันที่ 24 ก.ย. 2565 เวลา 15:35 น.

ไวรัสอีโบลาลามใน ยูกันดา ประเทศในแอฟริกาตะวันออก พบติดเชื้อเพิ่มเป็น 11 คน ตาย 3 คน  ซึ่งการระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าวซึ่งเป็นอันตรายถึงขั้นทำให้ผู้ติดเชื้อเสียชีวิต กระทรวงสาธารณสุขยูกันดาระบุในแถลงการณ์ที่เปิดเผยว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้ออีก 4 คน  ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลา ที่ได้รับการยืนยันในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 11 คน           นอกจากนี้ ยังพบผู้ติดเชื้อเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 3 คน ในช่วงเวลาดังกล่าว ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมรวมเป็น 11 คน ซึ่งรวมทั้งผู้ติดเชื้อที่รับการยืนยันและผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสอีโบลา โดยผู้เสียชีวิต 8 คน มาจากชุมชน และ 3 คน อยู่ในสถานพยาบาล           ทั้งนี้ ยูกันดาประกาศการระบาดของไวรัสอีโบลาสายพันธุ์ซูดานเมื่อวันอังคารที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังจากชายอายุ 24 ปี มีผลตรวจเป็นบวกหลังจากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล           โดยยูกันดาเปิดเผยว่ากำลังทำงานร่วมกับฝ่ายต่าง ๆ เช่น องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคอีโบลา           โรคอีโบลาจัดอยู่ในกลุ่มโรคชนิดเดียวกับไข้เลือดออกโดยเกิดจากเชื้อไวรัสอีโบลา และเป็นโรคติดต่อที่มีความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งพื้นที่การระบาดของโรคนี้พบมากในแถบแอฟริกา           อาการโดยทั่วไปจะเหมือนการติดเชื้อไข้เลือดออกประกอบไปด้วย อาการไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว แต่อาการจะรุนแรงขึ้นจนมีเลือดออก ตาเหลืองตัวเหลือง การทำงานของอวัยวะภายในล้มเหลว โดยโรคนี้มีความรุนแรงมาก และมีอัตราการเสียชีวิตเฉลี่ยสูงถึง 50%           ปัจจุบันยังไม่มียารักษาที่เฉพาะสำหรับโรคนี้ การรักษาทำได้เพียงการประคับประคองตามอาการและการคัดแยกผู้ป่วยอย่างเหมาะสม และแม้จะมีความพยายามพัฒนาวัคซีนอยู่ แต่จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคอีโบลา