นักวิจัยอังกฤษ พบอาการของผู้ติดโควิดสายพันธุ์ใหม่ เปลี่ยนไปจากเดิม มีอาการปวดหัวนำมาก่อนเป็นหวัดเป็นไข้
วันที่ 18 มิ.ย. 2564 เวลา 12:58 น.
นักวิจัยของ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เปิดเผยว่า โควิด-19 สายพันธุ์เดลตา หรือสายพันธุ์อินเดีย ที่แพร่ระบาดไปแล้ว 80 ประเทศทั่วโลก นอกจากจะแพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์อัลฟา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมแล้ว ยังมีแนวโน้มว่าผู้ติดเชื้อมีอาการหนักถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาล ได้มากกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า สายพันธุ์เดลตา ทำให้ผู้ติดเชื้อมีอาการที่รุนแรงมากขึ้น ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ ซีดีซี เปิดเผยถึงอาการป่วยของผู้ติดโควิดเริ่มเปลี่ยนไป จากสายพันธุ์ดั้งเดิม ผู้ติดเชื้อมีอาการหลัก ๆ หรืออาการเด่น คือ มีไข้ ไอถี่ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรู้รส ต่อมาผู้ป่วยเริ่มมีอาการปวดเมื่อย ปวดกล้ามเนื้อ ปวดร่างกาย ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหัว เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล คลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย ร่วมด้วย แต่ก็ยังมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากนับล้าน ๆ คนทั่วโลกที่ไม่แสดงอาการใดๆ เลย ขณะที่ ทิม สเปคเตอร์ ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาในระดับพันธุวิศวกรรมจากมหาวิทยาลัยคิงส์ คอลเลจ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่กำลังจัดทำโครงการศึกษาอาการของผู้ติดเชื้อโควิดที่เรียกว่า โครงการ Zoe Covid Symptom Study พบว่า โควิดสายพันธุ์ใหม่ ทำให้อาการผู้ป่วยเปลี่ยนไปจากเดิม โดยส่วนใหญ่จะมีอาการ อาการปวดหัว จากนั้นก็ตามมาด้วยเจ็บคอ น้ำมูกไหล และเป็นไข้ ส่วนอาการหลัก ๆ ที่เคยเกิดขึ้นในโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิม เช่น อาการไอ และสูญเสียการรับรสและกลิ่น นั้น พบน้อยลงจนแทบจะไม่มีเลย