วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำ ติดตามความคืบหน้าโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่เหียะน้อยพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ระยะ 2 ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นำโดยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายธีระชุณ บุญสิทธิ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ นายโอภาส ถาวร รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ นายเวสารัช โสภณดิเรกรัตน์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ร่วมลงพื้นที่
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่าโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่เหียะน้อย พร้อมระบบส่งน้ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เกิดขึ้นจากความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีต่อความเป็นอยู่ของพสกนิกรในพื้นที่ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคในฤดูแล้ง และได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในช่วงฤดูฝน โดยมีราษฎร คือ นายรักศักดิ์ แก้วสุดใจ เป็นผู้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำ เห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ จึงได้ดำเนินการเสนอของบประมาณเพื่อก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยแม่เหียะน้อย พร้อมระบบกระจายน้ำ เพื่อใช้เป็นแหล่งเก็บกักน้ำต้นทุน ช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำ และสนับสนุนการเกษตรกรรมและการดำรงชีวิตของประชาชนในระยะยาว
ด้านนายธีระชุณ บุญสิทธิ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เสริมว่า กรมทรัพยากรน้ำ โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 1 ได้ดำเนินงานโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่เหียะน้อย พร้อมระบบส่งน้ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภายในโครงการฯ มีงานก่อสร้างท่อส่งน้ำ HDPE ความยาวรวม 10,351 ม. พร้อมอาคารประกอบท่อส่งน้ำ ถังเก็บน้ำขนาดความจุ 10 ลบม. จำนวน 9 ถัง ถังเก็บน้ำขนาด 150 ลบม. จำนวน 1 ถัง เขื่อนดินสูงจำนวน 1 แห่ง ปัจจุบันมีผลการดำเนินงาน 36% และอยู่ระหว่างการพิจารณาแก้ไขแบบแปลนและตรวจสอบพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย โดยหากโครงการดำเนินงานแล้วเสร็จ จะสามารถเก็บกักน้ำได้มากกว่า 1,000,000 ลบ.ม. และมีระบบส่งน้ำที่ครบวงจร ช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์ด้านการทำเกษตรกว่า 450 ไร่ รวม 60 ครัวเรือน อีกทั้งยังเป็นแหล่งน้ำสำรองสำหรับดับไฟป่าบริเวณอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และยังช่วยป้องกันการเกิดอุทกภัยในพื้นที่ได้อีกด้วย
“สำหรับความคืบหน้าด้านการก่อสร้างระบบส่งน้ำด้วยท่อ 3 สาย จะมีความยาวรวมทั้งสิ้น 9,052 เมตร แบ่งเป็นการส่งน้ำให้สาย A ส่งน้ำให้แก่โครงการหลวงฯ และหน่วยพิทักษ์ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ที่ 4 สาย B ส่งน้ำให้แก่หมู่ 3 บ้านแม่เหียะใน และสาย C ส่งน้ำให้แก่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยเป็นการต่อพ่วงระบบส่งน้ำเดิม ปัจจุบันได้ดำเนินการขุดดินพร้อมทั้งเชื่อมท่อในสาย A ความยาวประมาณ 2,400 ม. เชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนและหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ” นายธีระชุณ กล่าว
นอกจากโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่เหียะน้อยพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ แล้ว กรมทรัพยากรน้ำ ยังดำเนินงานบริหารจัดการน้ำในโครงการอ่างเก็บน้ำอีกหลายแห่ง ซึ่งครอบคลุมทั้งพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร เชียงราย ตาก พระเยา ลำปางและลำพูน โดยมีอ่างเก็บน้ำขนาดความจุเกิน 2 ล้าน ลบ.ม. รวม 29 แห่ง
