“ตะวันฉาย” คว้า 2 รางวัลสำคัญ "นักมวยไทยยอดเยี่ยม/ดาวเด่นแห่งปี 2565” จากศึก ONE

ตลอดปี 2565 คงจะไม่มีนักมวยไทยซูเปอร์สตาร์คนไหนสร้างความตื่นเต้นบนเวที วัน แชมเปียนชิพ ให้กับแฟน ๆ มากไปกว่าเจ้าของฉายา "ซ้ายดารา” ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต จนทำให้ วัน แชมเปียนชิพ ตัดสินใจมอบ 2 รางวัล "นักมวยไทยยอดเยี่ยมประจำปี 2565" และ “ดาวเด่นแห่งปี 2565” จากผลงานชนะรวด 3 ไฟต์ในปี 2565 ให้กับนักมวยหนุ่มจากเมืองพัทยาผู้นี้

เริ่มต้นไฟต์แรกของปี “ตะวันฉาย” ต้องหนักใจกับการเจอนักมวยรุ่นพี่ที่เขาเคารพรัก "เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์" ในศึก ONE: HEAVY HITTERS เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2565 แต่เขาพิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถแยกความสัมพันธ์ส่วนตัวกับการต่อสู้บนสังเวียน ก่อนจะใช้หมัดซ้ายตรงส่ง “เสมาเพชร” ลงไปนอนกองบนเวทีแพ้น็อกด้วยเวลา 2:55 นาทีของยกแรก

อย่างไรก็ตามการประสบความยากลำบากที่จะทำน้ำหนักในพิกัด 145 ปอนด์ของรุ่นแบนตัมเวต ทำให้ไฟต์ถัดมาในอีก 5 เดือนหลังจากนั้น ทีมประกบคู่มวย ตัดสินใจนำ “ตะวันฉาย” ขึ้นชกในศึกตัดเชือกหาผู้ท้าชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต กับ “Dreamchaser” นิคลาส ลาร์เซน เป็นคู่เอกประจำศึก ONE 158

ยอดมวยชาวไทยวัย 23 ปี โชว์ฟอร์มที่น่าประทับใจอีกครั้ง ด้วยการวางแผนอย่างรัดกุมเพื่อรับมือสไตล์การชกที่ดุดันของคู่ต่อสู้ชาวเดนมาร์ก อาศัยความว่องไวหลบลีกการโจมตี พร้อมออกอาวุธตอบโต้กลับทั้งหมัดชุด, ลูกเตะลำตัว และศอก ก่อนที่ “ตะวันฉาย” จะสบโอกาสออกหมัดซ้ายตรงปิดฉากการชกในนาทีที่ 1:42 ของยกที่ 2 คว้าโบนัส 50,000 ดอลลาร์จาก “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ผู้ก่อตั้ง ประธาน และซีอีโอ ONE พร้อมโอกาสท้าชิงตำแหน่งกับ "เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี" เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ในศึก ONE 161 ที่มีขึ้นในวันที่ 29 กันยายน 2565 

เช่นเดียวกับ 2 ไฟต์ก่อนหน้านี้ "ตะวันฉาย" ในฐานะผู้ท้าชิงปล่อยอาวุธอย่างต่อเนื่อง และแทบจะไม่พลาดเป้า จนทำให้ "เพชรมรกต" ไม่อาจชกได้ตามสไตล์ถนัด หลังจากต้องรับมือกับอาวุธอันตรายทั้งศอก, หมัดซ้าย และลูกเตะที่หนักหน่วงตลอด 15 นาทีบนสังเวียน ก่อนที่ “ตะวันฉาย” เป็นฝ่ายได้รับการชูมือกลายเป็นแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต คนใหม่ ปิดฉากปีที่ยิ่งใหญ่ของเขาอย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พร้อมคว้า 2 รางวัลสำคัญจาก ONE ในปีนี้ โดยเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจสมกับที่เขาต้องแลกมาด้วยการทุ่มเทฝึกซ้อมตลอดหลายปี และเป็นกำลังใจให้มุ่งมั่นสร้างผลงานที่ดีขึ้นกว่าเดิมในปี 2566

“ผมรู้สึกภูมิใจมาก ๆ ที่ได้รับรางวัลนักมวยไทยยอดเยี่ยมประจำปี 2565 เป็นรางวัลที่ผมไม่คาดคิดว่าตัวเองจะได้มาก่อน ถือเป็นรางวัลที่แลกมาด้วยความทุ่มเทฝึกซ้อมของผมตลอด 3 ไฟต์ที่ขึ้นชกในปีที่ผ่านมา ในส่วนของรางวัลนักกีฬาดาวเด่นประจำปี 2565 ผมขอขอบคุณทาง วัน แชมเปียนชิพ เช่นกัน ในปีหน้าผมจะทำผลงานให้ถูกใจแฟนมวย และเห็นการชกที่เร้าใจของผมมากกว่านี้แน่นอนครับ” ตะวันฉาย เผยความรู้สึกกับ 2 รางวัลแห่งความทุ่มเท

ติดตามความข่าวสารและความคืบหน้าของ ONE ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เว็บไซต์ www.onefc.com และอินสตาแกรม ONEChampTh